ย้ำกันอีกครั้งว่าคนใคร่เด็กและผู้ร้ายลวนลามเด็กเป็นกลุ่มรักต่างเพศ (หรือคนตรงเพศ)
เท่าที่เราจำได้ ความกลัวเพศทางเลือกได้ทำการต่อต้านพวกเราโดยใช้วิธีการเชื่อมโยงคนใคร่เด็กกับพวกเรา พวกเขาบอกว่าเราเป็นนักล่าทางเพศที่คอย“ตามหา”เด็กๆและเปลี่ยนให้พวกเขาเป็นเกย์ด้วยการลวนลาม พวกเขาบอกว่าผู้กระทำผิดส่วนมากเป็นสมาชิกชุมชน LGBTQ ที่พยายามทำให้ความใคร่เด็กกลายเป็นเรื่องปกติ (คำกล่าวอ้างของฝ่ายขวาที่ต้องปั้นน้ำเป็นตัวเพราะว่ามันไม่ใช่เรื่องจริงสักนิดเดียว) ชาวเพศทางเลือกที่แปลกเพศแล้วและแค่อยากจะใช้ห้องน้ำที่ตรงกับเพศของตัวเองต้องถูกกลุ่มอนุรักษ์นิยมกล่าวหาว่าเป็นคนใคร่เด็กและจ้องหาโอกาสที่จะลวนลามเด็กในห้องน้ำ
อันที่จริงแล้ว นักแสดงฝ่ายขวาอย่าง James Woods พึ่งจะทำการทวีตภาพ(ด้านล่าง) โดยบอกว่าชุมชน LGBTQ นั้นยอมรับคนที่มีความใคร่เด็กว่าเป็นหนึ่งในสมาชิกครอบครัวเพศทางเลือก
ฉะนั้นตอนนี้น่าจะเป็นเวลาที่เหมาะที่เราจะได้พิสูจน์ด้วยข้อเท็จจริงว่าจริงๆแล้วคนที่เป็นโรคใครเด็กส่วนมากนั้นเป็นกลุ่มรักต่างเพศ(หรือคนเพศตรง)ต่างหาก
And so it begins… pic.twitter.com/ku6FQpBbAO
— James Woods (@RealJamesWoods) July 31, 2018
งานวิจัยชิ้นหนึ่งในปี 1994 ที่ถูกเผยแพร่บนนิตยสาร Pediatrics นักวิจัย 3 คนได้ทำการศึกษากรณีการลวนลามทางเพศเด็กที่ได้รับการดูแลโดยโรงพยาบาลในพื้นที่จำนวนทั้งหมด 269 กรณี นักวิจัยทำการศึกษาข้อมูลที่มีความเกี่ยวข้องและพบว่า 78% ของกรณีทั้งหมดเป็นเด็กผู้หญิงและ 22% มีความเกี่ยวข้องกับเด็กผู้ชายและดูว่าผู้กระทำความผิดนั้นเป็นเกย์ เลสเบี้ยน หรือไบเซ็กชวลหรือไม่
พวกเขาพบว่าจากทั้งหมด 269 เคสนั้นมีเพียงแค่ 0.7% เท่านั้นที่ผู้กระทำผิดเป็นเกย์ เลสเบี้ยน หรือไบเซ็กชวล นั่นหมายความว่าจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทั้งหมด ผู้ที่เป็นโรคใคร่เด็กมีอัตราที่จะเป็นคนรักเพศตรงข้ามหรือเพศตรงถึง 99.3%
นอกจากนั้นงานวิจัยจำนวนมากในอดีตในเรื่องของตัวตนทางเพศ โรคใคร่เด็ก และผู้กระทำการลวนลามเด็กนั้นมีข้อบกพร่องเกือบทั้งหมด
ศาสตราจารย์วิชาจิตวิทยา Gregory M. Herek กล่าวว่างานวิจัยในอดีตเกี่ยวกับการลวนลามทางเพศเด็กนั้นมีการพูดถึงผู้ที่มีอาการใคร่เด็กและกลุ่มที่ทำการลวนลามเด็กว่าเป็นสิ่งเดียวกัน ซึ่งจริงๆแล้วไม่ใช่อย่างนั้น
Herek กล่าวว่า “อาการใคร่เด็ก”เป็นอาการ”ผิดปกติในผู้ใหญ่ที่มีความต้องการเลือกเด็กที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะมาเป็นคู่นอนของตัวเอง” และผู้กระทำการลวนลามเด็กนั้นมักจะไม่ถูกสัมภาษณ์เพื่อศึกษาว่าพวกเขานั้นเป็นกลุ่มที่มีความใคร่เด็กจริงๆหรือว่าเป็นแค่นักฉวยโอกาสเท่านั้น
บทความที่เกี่ยวข้อง | ‘คนที่มีความดึงดูดต่อผู้เยาว์’ เป็นข่าวลวงที่พยายามเชื่อมโยงกลุ่ม LGBTQ เข้ากับโรคใคร่เด็ก
นอกจากนั้น Herek ยังกล่าวว่างานวิจัยในอดีตทำการนิยามการลวนลามทางเพศของผู้ชายต่อเด็กผู้ชายและผู้หญิงต่อเด็กผู้หญิงว่าเป็น”รักร่วมเพศ” ซึ่งในความเป็นจริงแล้วผู้ที่กระทำการลวนลามเหล่านั้นไม่ได้มีความสนใจที่จะมีความสัมพันธ์กับผู้ใหญ่แม้แต่น้อย ไม่ว่าจะเป็นเพศใดก็ตาม
เขายังชี้อีกว่างานวิจัยในอดีตของผู้ที่ถูกตัดสินว่ากระทำความผิดนั้นเคยมีความสัมพันธ์กับผู้ชายหรือผู้หญิงที่เป็นผู้ใหญ่หรือไม่ และสถาบันวิทยาศาสตร์แห่งชาติยังได้กล่าวในรายงานปี 1993 ว่า “ผู้ที่กระทำผิดลวนลามเด็กผู้ชายนั้นไม่มีความสนใจในผู้ใหญ่เพศชาย”
มีเพียงแค่งานวิจัยในปี 1988 หนึ่งชิ้น (ที่ถูกใช้โดยสภาวิจัยครอบครัวที่ต่อต้านเพศทางเลือกมักใช้บ่อยๆ) กล่าวว่า 86% ของผู้ชายที่ถูกกล่าวหาการลวนลามเด็กบอกว่าพวกเขามองตัวเองเป็นกลุ่มรักร่วมเพศหรือไบเซ็กชวล แต่งานวิจัยดังกล่าวไม่มีข้อมูลสนับสนุนใดๆที่บอกว่าพวกเขาได้ข้อสรุปนี้มาได้อย่างไร ทำให้ข้อค้นพบนั้นไม่สามารถนำมาใช้กับงานวิจัยชิ้นอื่นๆได้
นักวิจัยที่อยู่เบื้องหลังการศึกษาของปี 1994 พบว่าเกย์ ไบเซ็กชวล และเลสเบี้ยนมีโอกาสที่จะทำการลวนลามเด็กน้อยที่สุดและตรงกับอัตราประชากรที่เป็นเพศทางเลือกในสหรัฐอเมริกา และเมื่อประชากร 3.8% ของประเทศสหรัฐนั้นเป็น LGBTQ ทำให้ผู้กระทำผิดนั้นมีอัตราที่จะเป็นกลุ่มรักต่างเพศมากกว่า แต่พวกเขาจะต้องมีความรู้สึกดึงดูดต่อเพศตรงข้ามที่เป็นผู้ใหญ่ร่วมด้วย
และเมื่อเรามองที่อัตราของประชากรแปลงเพศในสหรัฐอเมริกาที่ 0.3% นั่นหมายความว่าเราสามารถสรุปได้ว่าผู้ที่กระทำการลวนลามเด็ก ผู้กระทำผิดทางเพศ และผู้ที่มีอาการใคร่เด็กนั้นเป็นกลุ่มที่มีเพศตรงมาตั้งแต่เกิดด้วย นั่นหมายความว่าเราควรจะห้ามพวกเขาจากการใช้ห้องน้ำสาธารณะด้วยเลยถูกมั๊ย ลูกหลานของเราจะได้ปลอดภัยกันยังไงล่ะ
สรุปแล้วก็คือข้ออ้างที่ว่ากลุ่ม LGBTQ นั้นมีโอกาสที่จะเป็นโรคใคร่เด็กนั้นเป็นเรื่องที่สะท้อนให้เห็นถึงอาการกระต่ายตื่นตูมของความกลัวเพศทางเลือกมากกว่าการใช้ข้อมูลสนับสนุนข้อเท็จจริง
บทความที่เกี่ยวข้อง | ผู้คนเลือกที่จะแชร์ภาพไร้สาระที่เชื่อมโยงชุมชน LGBTQ กับอาการใคร่เด็ก
แต่นั่นก็คงจะไม่หยุดคนหัวแข็งอย่าง James Woods จากการเหมารวม LGBTQ กับคนใคร่เด็กอย่างแน่นอน ซึ่งถือเป็นเรื่องแปลกเมื่อเขาเองก็ถูกกล่าวหาว่าพยายามหลอกล่อเด็กหญิงอายุ 16 ปีในขณะที่ตัวเองนั้นก็อายุเยอะกว่าเธอมาก แต่อย่างน้อยเราก็พอจะมีข้อมูลที่จะช่วยสนับสนุนคำพูดของเราหากมีใครพยายามที่จะเอาความเชื่อผิดๆและความเกลียดชังมาอ้างเรื่องไร้สาระกับคุณได้